HIJAB ฮิญาบ
HIJAB ฮิญาบ หมายถึง “การปกปิด” ซึ่งไม่ได้หมายถึงเครื่องแต่งกายที่ทำหน้าที่ปิดคลุมเฉพาะภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกริยามารยาท การวางตัว ความละอาย และการสำรวมจิตใจที่อยู่ภายในด้วย
ฮิญาบเป็นเสมือนเครื่องมือที่ช่วย ให้มุสลิมะฮฺรำลึกถึงอัลลอฮฺในทุกการกระทำ เธอจะระมัดระวังและสำรวมปฏิบัติทุกสิ่งให้อยู่ในหลักการมากขึ้น เพราะความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และด้วยตระหนักว่าเธอคือตัวแทนของอัลลอฮฺบนโลกนี้ ทุกภาพลักษณ์ที่สะท้อนพฤติกรรมของเธอคือภาพรวมของอิสลาม
ดังนั้น ผู้ที่คลุมฮิญาบจึงไม่ใช่แค่ยอมรับผ้าผืนหนึ่งมาคลุมเรือนร่าง หากแต่ยอมรับหลักการทั้งหมดที่มากับผ้าผืนนี้มาคลุมใจด้วย นั่นคือหลักการแห่งอิสลามซึ่งครอบคลุมทุกรายละเอียดของชีวิต
ฮิญาบ คือการแต่งกายที่ศาสนาอิสลามบังคับสำหรับสตรีมุสลิม เพื่อเป็นการป้องกันพวกเธอไม่ให้เกิดการเกี้ยวพาราสีและถูกรบกวนจากบรรดาบุรุษที่ไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นการคลุมฮิญาบ จึงมีไว้เพื่อปกป้องเกียรติภูมิความมีศักดิ์ศรีของสตรี และการคลุมฮิญาบก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว หรือประกอบกิจการอะไรเลย อิสลามมิได้บังคับให้สตรีต้องปิดหน้าหรือใส่ถุงมือ
ฮิญาบ ในความหมายทางอาการนาม คือ การปิด การซ่อน หรือการปกคลุม หรือมีความหมายว่า ม่านกั้น แต่ความหมายในทางศาสนาบรรดานักวิชาการได้ให้ความหมายรวมไว้ว่า หมายถึง เครื่องแต่งกาย หรือ อาภรณ์มุสลิมะห์ที่ปกปิดส่วนที่เรียกว่า เอาเราะห์ คำว่า เอาเราะห์นี้ นักวิชาการมีความเห็นเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายหนึ่งมีความเห็นว่า เอาเราะห์ คือ บางส่วนของร่างกายสตรีซึ่งจะต้องปกปิดทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า อีกฝ่ายหนึ่งมีความเห็นว่า ทุกส่วนของร่างกายสตรีเป็นเอารัต นอกจากใบหน้าและฝ่ามือ แต่ถ้าหากเกรงว่าจะเกิดความเสื่อมเสียก็ควรปิดทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งใบหน้าและฝ่ามือ ดังนั้นฮิญาบจึงมิได้หมายถึง เฉพาะผ้าคลุมศีรษะเท่านั้น
มุสลิมมะฮฺจ๋า รู้ไหมว่าเธอคือผู้ถูกห่วงใย
พระเจ้าของเธอ ศาสนาของเธอ ห่วงใยเธอรู้ไหม? ฉันนี่เเหละคือหลักฐานยืนยันถึงความห่วงใยที่เธอได้รับ เพราะฉันถูกส่งมาเพื่อเป็นปราการด่านสําคัญในการปกป้องเธอจากความชั่วร้าย
เเต่เธอบางคนกลับเห็นฉันเป็นเพียงเครื่องเเบบนักเรียนที่เมื่อพ้นประตูโรงเรียนไปเเล้วจะโยนทิ้งเสียตรงไหนก็ได้ เเละเธออีกบางคนก็เห็นฉันเป็นเพียงเครื่องประดับที่ถูกเลือกให้ห่มคลุมอยู่บนศรีษะของเธอเพียงเพราะสีสันเเละลวดลายของฉันมันถูกใจเธอมันทำให้เธอคิดว่าตัวเองสวยเเละดูดีเมื่อใช้ห่มคลุม
เเต่เธอรู้ไหม? ฉันไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อเพิ่มพูนความสวยงามน่าดึงดูดให้เเก่เธอ เเต่ฉันถูกส่งมาเพื่อปกป้องความสวยงามของเธอต่างหาก ปิดป้องเพื่อเก็บรักษามันไว้ให้เเก่คนเดียวที่คู่ควรจะได้มันไปชื่นชม
ฉะนั้นนั้นอย่าลดค่าของให้กลายเป็นเพียงเครื่องเเต่กายชิ้นหนึ่งที่เธอใช้เครื่องมือโอ้อวดความงามเลย เพราะนั้นก็เท่ากับเธอได้ลดคุณค่าตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงสาธารณะที่ใครจะมอง จะชม เเละจะคิดไปมางไหนก็ได้ ไม่ว่าจะดีสุดตัว หรือชั่วสุดใจ
ฉันรู้นะ การปรากฎตัวในสังคมโดยมีฉันปิดคลุมร่างกายเธอไว้อย่างมิดชิดอาจทำให้เธอถูกมองด้วยสายตาอันเเปลกประหลาด สงสัย เเละหวาดระเเวง
เเต่ขอให้เธอเชื่อใจฉัน เเละผู้ที่ส่งฉันมาให้เธอ เชื่อเถอะว่ามีคนอยู่เคียงข้างเธอ เเละยิ้มให้เสมอในต่อสู้ของเธอท่ามกลางดวงตาดูหมิ่นของผู้คน เป็นการอยู่เคียงข้างที่เเม้ดวงตาเธอจะมองไม่เห็น เเต่ฉันเชื่อว่าดวงใจเธอจะรับรู้อย่างเเจ่มชัด
อิ่มใจเถอะ! ที่จะเป็นคนเเปลกหน้าของมนุษย์เพราะมันจะทำให้เธอเป็นคนใกล้ชิดของผู้สร้างมนุษย์
มุสลิมะฮฺที่รักจ๋า ขอเธอจงรักฉัน สนิทสนมกับฉัน ไว้ใจฉัน พาดคลุมฉันลงไปให้ถึงหน้าอกของเธอ เเล้วฉันจะห่มคลุมให้ลึกลงไปถึงหัวใจของเธอเบื้องใต้
ที่มา www.facebook.com/nana.sanwa/posts
ฮิญาบเป็นเสมือนเครื่องมือที่ช่วย ให้มุสลิมะฮฺรำลึกถึงอัลลอฮฺในทุกการกระทำ เธอจะระมัดระวังและสำรวมปฏิบัติทุกสิ่งให้อยู่ในหลักการมากขึ้น เพราะความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และด้วยตระหนักว่าเธอคือตัวแทนของอัลลอฮฺบนโลกนี้ ทุกภาพลักษณ์ที่สะท้อนพฤติกรรมของเธอคือภาพรวมของอิสลาม
ดังนั้น ผู้ที่คลุมฮิญาบจึงไม่ใช่แค่ยอมรับผ้าผืนหนึ่งมาคลุมเรือนร่าง หากแต่ยอมรับหลักการทั้งหมดที่มากับผ้าผืนนี้มาคลุมใจด้วย นั่นคือหลักการแห่งอิสลามซึ่งครอบคลุมทุกรายละเอียดของชีวิต
ฮิญาบ คือการแต่งกายที่ศาสนาอิสลามบังคับสำหรับสตรีมุสลิม เพื่อเป็นการป้องกันพวกเธอไม่ให้เกิดการเกี้ยวพาราสีและถูกรบกวนจากบรรดาบุรุษที่ไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นการคลุมฮิญาบ จึงมีไว้เพื่อปกป้องเกียรติภูมิความมีศักดิ์ศรีของสตรี และการคลุมฮิญาบก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว หรือประกอบกิจการอะไรเลย อิสลามมิได้บังคับให้สตรีต้องปิดหน้าหรือใส่ถุงมือ
ฮิญาบ ในความหมายทางอาการนาม คือ การปิด การซ่อน หรือการปกคลุม หรือมีความหมายว่า ม่านกั้น แต่ความหมายในทางศาสนาบรรดานักวิชาการได้ให้ความหมายรวมไว้ว่า หมายถึง เครื่องแต่งกาย หรือ อาภรณ์มุสลิมะห์ที่ปกปิดส่วนที่เรียกว่า เอาเราะห์ คำว่า เอาเราะห์นี้ นักวิชาการมีความเห็นเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายหนึ่งมีความเห็นว่า เอาเราะห์ คือ บางส่วนของร่างกายสตรีซึ่งจะต้องปกปิดทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า อีกฝ่ายหนึ่งมีความเห็นว่า ทุกส่วนของร่างกายสตรีเป็นเอารัต นอกจากใบหน้าและฝ่ามือ แต่ถ้าหากเกรงว่าจะเกิดความเสื่อมเสียก็ควรปิดทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งใบหน้าและฝ่ามือ ดังนั้นฮิญาบจึงมิได้หมายถึง เฉพาะผ้าคลุมศีรษะเท่านั้น
มุสลิมมะฮฺจ๋า รู้ไหมว่าเธอคือผู้ถูกห่วงใย
พระเจ้าของเธอ ศาสนาของเธอ ห่วงใยเธอรู้ไหม? ฉันนี่เเหละคือหลักฐานยืนยันถึงความห่วงใยที่เธอได้รับ เพราะฉันถูกส่งมาเพื่อเป็นปราการด่านสําคัญในการปกป้องเธอจากความชั่วร้าย
เเต่เธอบางคนกลับเห็นฉันเป็นเพียงเครื่องเเบบนักเรียนที่เมื่อพ้นประตูโรงเรียนไปเเล้วจะโยนทิ้งเสียตรงไหนก็ได้ เเละเธออีกบางคนก็เห็นฉันเป็นเพียงเครื่องประดับที่ถูกเลือกให้ห่มคลุมอยู่บนศรีษะของเธอเพียงเพราะสีสันเเละลวดลายของฉันมันถูกใจเธอมันทำให้เธอคิดว่าตัวเองสวยเเละดูดีเมื่อใช้ห่มคลุม
เเต่เธอรู้ไหม? ฉันไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อเพิ่มพูนความสวยงามน่าดึงดูดให้เเก่เธอ เเต่ฉันถูกส่งมาเพื่อปกป้องความสวยงามของเธอต่างหาก ปิดป้องเพื่อเก็บรักษามันไว้ให้เเก่คนเดียวที่คู่ควรจะได้มันไปชื่นชม
ฉะนั้นนั้นอย่าลดค่าของให้กลายเป็นเพียงเครื่องเเต่กายชิ้นหนึ่งที่เธอใช้เครื่องมือโอ้อวดความงามเลย เพราะนั้นก็เท่ากับเธอได้ลดคุณค่าตัวเองเป็นเพียงผู้หญิงสาธารณะที่ใครจะมอง จะชม เเละจะคิดไปมางไหนก็ได้ ไม่ว่าจะดีสุดตัว หรือชั่วสุดใจ
ฉันรู้นะ การปรากฎตัวในสังคมโดยมีฉันปิดคลุมร่างกายเธอไว้อย่างมิดชิดอาจทำให้เธอถูกมองด้วยสายตาอันเเปลกประหลาด สงสัย เเละหวาดระเเวง
เเต่ขอให้เธอเชื่อใจฉัน เเละผู้ที่ส่งฉันมาให้เธอ เชื่อเถอะว่ามีคนอยู่เคียงข้างเธอ เเละยิ้มให้เสมอในต่อสู้ของเธอท่ามกลางดวงตาดูหมิ่นของผู้คน เป็นการอยู่เคียงข้างที่เเม้ดวงตาเธอจะมองไม่เห็น เเต่ฉันเชื่อว่าดวงใจเธอจะรับรู้อย่างเเจ่มชัด
อิ่มใจเถอะ! ที่จะเป็นคนเเปลกหน้าของมนุษย์เพราะมันจะทำให้เธอเป็นคนใกล้ชิดของผู้สร้างมนุษย์
มุสลิมะฮฺที่รักจ๋า ขอเธอจงรักฉัน สนิทสนมกับฉัน ไว้ใจฉัน พาดคลุมฉันลงไปให้ถึงหน้าอกของเธอ เเล้วฉันจะห่มคลุมให้ลึกลงไปถึงหัวใจของเธอเบื้องใต้
ที่มา www.facebook.com/nana.sanwa/posts
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น